ลิเวอร์พูล ทีมที่การันตีสิทธิ์ในการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน ได้ทำการเรียก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับมายืนตำแหน่งตัวจริงอีกครั้ง หลังจากเขามีปากเสียงกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในนัดล่าสุด การแข่งขันที่ แอนฟิลด์ นี้ เจอการต่อสู้จากทีมสเปอร์ส ที่มี ซน ฮึง-มิน นำทัพ
การเริ่มต้นเกมนาทีที่ 14 ซาลาห์ เกือบทำประตูได้ด้วยการยิงดีดไซด์ก้อยในเขตโทษแต่บอลไปชนเสาอย่างแรง โปรแกรมบอลและผลบอล ตารางบอล แต่ผู้ตัดสินชี้ว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ทว่าเพียงสองนาทีถัดมา โคดี้ กัคโป ได้บอลทางฝั่งซ้ายเลี้ยงตัดเข้าในและส่งบอลข้ามแนวรับไปถึง ซาลาห์ ที่ขึ้นโขกสบายๆ ที่เสาไกล
ในนาทีที่ 37 กัคโป ยังคงแสดงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมด้วยการได้บอลหน้าเขตโทษและพยายามยิงไกล แต่บอลก็ไม่พ้นมือของ วิคาริโอ ผู้รักษาประตูของสเปอร์สที่รับเข้าซองไว้ได้ นาทีที่ 41 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลองส่องหน้าเขตโทษแต่โดนบล็อก ก่อนที่จะเปิดไปเสาไกลให้ หลุยส์ ดิอาซ ยิงได้สวยแต่หลุดกรอบออกไป
ก่อนจบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ขยับหนีไปเป็น 2-0 เมื่อ โรเบิร์ตสัน แตะบอลเร็วให้ ซาลาห์ ยิงติดเซฟแต่บอลยังอยู่ในเขตโทษ โรเบิร์ตสัน จึงตามมาซ้ำเข้าไป และในครึ่งหลังนาทีที่ 50 ลิเวอร์พูล หนีเป็น 3-0 จากจังหวะที่ เอแมร์ซอน ทำพลาด โคดี้ กัคโป โขกบอลเข้าไป
การทำประตูของซาลาห์ในนาทีที่ 59 ทำให้สกอร์ไหลไปเป็น 4-0 ด้วยการยิงปั่นด้วยขวาสวยงามของเขา ก่อนที่สเปอร์สจะไล่มาเป็น 4-1 และ 4-2 ตามลำดับจากการยิงของริชาร์ลิซอนและซน ฮึง-มิน สุดท้าย ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะไปด้วยสกอร์ 4-2 จากการแข่งขันที่เข้มข้นตลอดทั้งเกม