เล่นมาได้ 6 นาที กลายเป็น ออสเตรีย ที่ออกนำ 1-0 จากจังหวะโต้กลับ อเล็กซานเดอร์ พราสส์ ได้เติมสูงมาเปิดจากฝั่งซ้ายเข้ากลาง ดอนเยลล์ มาเลน ของ เนเธอร์แลนด์ พยายามจะล้มตัวสกัด แต่กลายเป็นมากระแทกบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป
นาทีที่ 23 เนเธอร์แลนด์ น่าตีเสมอเหลือเกิน จากจังหวะที่ เชาเท่น โปรแกรมบอลและผลบอล ตารางบอล จ่ายเร็วทะลุช่องไปให้ ดอนเยลล์ มาเลน ได้หลุดไปตวัดยิงด้วยเท้าซ้าย แต่บอลหลุดกรอบออกไป
ทัพกังหันสีส้ม เปลี่ยนตัวเร็วตั้งแต่นาทีที่ 35 ถอดเอา โจอี้ เฟียร์มัน ออกแล้วส่ง ซาฟี ซิมอนส์ ลงไปแทน
นาทีที่ 37 ออสเตรีย เกือบหนีห่าง ซาบิตเซอร์ ได้เก็บตกจากลูกเตะมุมซัดหน้าเขตโทษจะเสียบมุมประตู แต่ บาร์ต แฟร์บรู๊กเก้น เซฟไว้ได้ จังหวะต่อเนื่อง กริลลิทช์ ได้ยิงแฉลบไปเข้าทาง อาร์เนาโตวิช ได้ล่อเป้า แต่ดันยิงวืด
หมดครึ่งแรก ออสเตรีย ออกนำ 1-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาทีที่ 47 เนเธอร์แลนด์ ตามตีเสมอ 1-1 เมื่อตัดบอลได้แถวกลางสนาม ซาฟี ซิมอนส์ ลากจี้ขึ้นมาด้วยความเร็วก่อนไหลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ โคดี้ กัคโป ล็อกทีนึงแล้วปั่นด้วยเท้าขวาเสียบเสาไกล
นาทีที่ 59 ออสเตรีย นำอีกครั้งเป็น 2-1 เมื่อ กริลลิทช์ ทะลุไปเปิดที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้ายหักข้อมาให้ โรมาโน่ ชมิด โหม่ง แม้ เดอ ฟราย จะพยายามสกัดที่เส้น แต่ก็ไม่ทันการแล้ว
นาทีที่ 78 เนเธอร์แลนด์ ตีเสมอ 2-2 เมื่อ กัคโป โยนจากทางซ้ายเข้าเขตโทษ เวาต์ เว็กฮอร์สต์ โหม่งชงให้ เดอปาย พักแล้วยิงดีดๆ ด้วยเท้าขวาตุงตาข่าย แม้ทีแรกผู้ตัดสินจะเป่าว่า เดอปาย แฮนด์บอล แต่พอเช็กวีเออาร์แล้วลูกนี้เลยได้ประตู
ทว่าแค่ 2 นาทีให้หลัง ออสเตรีย นำอีกครั้งเป็น 3-2 บอมการ์ทเนอร์ ตัวสำรองจ่ายทะลุช่องให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วยิงด้วยเท้าซ้ายยัดเสาแรกเสียบใต้คาน
แม้ช่วงท้าย เนเธอร์แลนด์ จะพยายามบุก แต่ก็ยิงคืนไม่ได้ จบเกม ออสเตรีย เอาชนะ 3-2 คว้าแชมป์กลุ่มเข้ารอบ ส่วน เนเธอร์แลนด์ ก็เข้ารอบเช่นกันในฐานะหนึ่งในทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด